แนะนำ เครื่องมือในการนำคอนเทนต์ ที่ดีที่สุดของคุณกลับมาใช้ใหม่

แน่นอนค่ะว่านักการตลาดเนื้อหาทุกคนต่างก็ต้องการให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์สูงสุดจากเนื้อหาที่สร้างขึ้น อย่างไรก็ตาม การสร้างและเผยแพร่เนื้อหาที่มีคุณภาพสูงในจำนวนมากๆ นั้นต้องใช้เวลาที่ยาวนาน รวมถึงทรัพยากรต่างๆ เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

โดยเฉพาะเนื้อหาที่ให้ผลลัพธ์สูงสุด และเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการขยายไลบรารีเนื้อหาของคุณ เพื่อการประชาสัมพันธ์เนื้อหาในช่องทางสื่อโซเชียลในแพลตฟอร์มต่างๆ นั่นก็คือ Infographic และ E-book ที่อ่านแล้วเข้าใจ และมีรูปแบบที่สวยงาม แถมยังให้ความรู้สึกของความเป็นมืออาชีพอีกต่างหาก ดังนั้นเลยอยากจะขอแนะนำ 7 แนะนำ เครื่องมือในการนำคอนเทนต์ ที่ดีที่สุดของคุณกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถประหยัดเวลาในการสร้างคอนเทนต์ได้อีกโขเลยล่ะค่ะ

1. BuzzSumo (เวอร์ชั่นที่ต้องชำระเงินเท่านั้น)

BuzzSumo ช่วยให้คุณสามารถค้นพบและกรองผลการค้นหาตามประเภทเนื้อหา ไม่ว่าจะเป็น Infographics การแจกของรางวัล บทสัมภาษณ์ วิดีโอ และการโพสต์แบบผู้เยี่ยมชม เพื่อให้คุณสามารถดูสิ่งที่ได้รับการเผยแพร่เกี่ยวกับหัวข้อที่กำหนดขณะที่คุณวางแผนการอัพเดทเนื้อหาของคุณ เมื่อคุณต้องการเพิ่มมุมมองใหม่ลงในบทความที่มีอยู่ BuzzSumo ก็สามารถช่วยคุณค้นหาผู้มีอิทธิพลและผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อของคุณได้

2. Airtable (เวอร์ชั่นฟรีและแบบชำระเงิน)

นักการตลาดหลายคนนิยมใช้ Airtable เพื่อสร้างฐานข้อมูลเนื้อหาที่จัดไว้ โดยคุณสามารถใช้เครื่องมือนี้เพื่อติดตามแนวคิดเรื่องเนื้อหา และแผนการปรับเปลี่ยนเนื้อหาขนาดใหญ่ให้เป็นเนื้อหาขนาดเล็กได้ นอกจากนั้นเครื่องมือยังมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะจัดการกับกระบวนการนำเนื้อหาทั้งหมดกลับมาใช้ใหม่ เพื่อจัดการรายการคำหลัก ซึ่งช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาสำหรับเครื่องมือค้นหาการสร้าง Editorial Calendar เพื่อติดตามกำหนดเวลา และการกำหนดและวัดเมตริกความคิดเห็นของผู้ชมสำหรับโพสต์ที่นำไปใช้ซ้ำ

3. MeetEdgar (เวอร์ชั่นที่ต้องชำระเงินเท่านั้น)

หากคุณต้องการกำหนดเวลาจัดการและต้องการเผยแพร่เนื้อหาบนโซเชียลมีเดียของคุณใหม่ ลองใช้ MeetEdgar เครื่องมือกำหนดเวลาสื่อสังคมออนไลน์นี้ซึ่งช่วยให้คุณสามารถสร้าง ‘ไลบรารี’ โพสต์สื่อสังคมออนไลน์ที่จะโพสต์เนื้อหาใหม่ๆ ให้กับคุณโดยอัตโนมัติตลอดเวลา โดยคุณสามารถเติมไลบรารีด้วยข้อความรูปภาพ ลิงก์ และกราฟิกจัดกลุ่มตามหมวดหมู่และระบุแพลตฟอร์มที่คุณต้องการแชร์ นอกจากนั้น MeetEdgar ยังเผยแพร่บทความที่กำหนดเวลาไว้ในแต่ละหมวด เมื่อเนื้อหาหมด เครื่องมือก็จะเริ่มทำใหม่โดยอัตโนมัติ

4. Repurpose (เวอร์ชั่นที่ต้องชำระเงินเท่านั้น)

วิดีโอ Livestreaming ถือเป็นประเภทเนื้อหาที่เติบโตเร็วที่สุด และมีการแชร์กันมากที่สุด ส่วนหนึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาทำให้คุณสามารถเข้ามามีส่วนร่วมโดยการชมสดได้โดยตรง ซึ่งถ้าคุณต้องการจะใช้ในการติดต่อกับผู้ชมของคุณ ทำไมไม่ลองนำเนื้อหาเหล่านี้ไปใช้ใหม่ในหลายๆ แพลตฟอร์มเพื่อการเข้าถึงที่กว้างขึ้นล่ะ โดย Repurpose ถือเป็นผู้เผยแพร่วิดีโอและพ็อดแคสเตอร์ที่ถ่ายทอดสดทางออนไลน์ ที่ช่วยให้คุณสามารถผลักดันวิดีโอ Facebook Live ไปที่ YouTube ได้อย่างง่ายดายอีกทั้งยังสามารถสร้างไฟล์เสียงบน SoundCloud ส่งไฟล์ไปยัง Dropbox เป็นต้น

5. SE Ranking (เวอร์ชั่นที่ต้องชำระเงินเท่านั้น)

อีกวิธีหนึ่งในการตัดสินใจว่าเนื้อหาใดที่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ใหม่ คือการดูการจัดอันดับการค้นหา และข้อความค้นหาที่ดึงดูดการเข้าชมมายังเว็บไซต์ของคุณมากที่สุด โดยคุณสามารถใช้ SE Ranking เพื่อติดตามประวัติการจัดอันดับของคุณ และระบุคำค้นหายอดนิยมของคุณ เพื่อใช้ดูเนื้อหาที่บรรลุเป้าหมายของคุณในช่วงเวลาหนึ่งได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของโพสต์และคู่แข่งของคุณในเครือข่ายสังคมที่สำคัญ โดยข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถปรับแผนการนำเนื้อหาของคุณกลับมาใช้ใหม่ได้

6. Airstory (เวอร์ชั่นฟรีและแบบชำระเงิน)

แพลตฟอร์มการเขียน Airstory จะช่วยให้คุณสามารถเก็บร่างจดหมาย โน้ต และเนื้อหาที่เกี่ยวข้องไว้ด้วยกันได้ในขณะที่คุณทำงานเกี่ยวกับโครงการที่นำกลับมาทำใหม่ โดยการใช้เครื่องมือสร้างเอกสารแบบลากและวางเพื่อรวบรวมชิ้นเนื้อหาที่คุณต้องการนำมาใช้ใหม่ และทำงานร่วมกันกับผู้สร้างเนื้อหารายอื่นๆ ที่ทำงานในส่วนเดียวกัน โดยเครื่องมือที่มีความยืดหยุ่นจะช่วยให้คุณสามารถติดตั้งโครงการที่มีกำหนดเวลากำหนดเป้าหมาย การนับคำ และอัพโหลดแม่แบบได้

7. Google Tools (เวอร์ชั่นฟรีและแบบชำระเงิน)

Google Analytics แสดงให้คุณเห็นว่าผู้ใช้มีการโต้ตอบกับเนื้อหาของคุณอย่างไร รวมถึงการดูหน้าเว็บทั้งหมด ตลอดช่วงเวลาของการมีส่วนร่วมทางสังคมโดยรวม และเวลาที่ใช้ในเว็บไซต์ โดยคุณสามารถใช้พารามิเตอร์เหล่านี้เพื่อช่วยในการตัดสินใจว่าเนื้อหาใดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการนำไปใช้ใหม่ได้ ส่วน Google Search Console จะช่วยให้คุณเห็นว่า หน้าใดบ้างที่ดึงดูดลิงก์มากที่สุด ซึ่งคุณต้องจำไว้ด้วยว่าเนื้อหาบางอย่างอาจดึงดูดลิงก์ แม้ว่าจะไม่ได้สร้างการเข้าชมมากขึ้นก็ตาม

ลองนำเครื่องมือเหล่านี้ไปใช้งานในการค้นหาคอนเทนต์ของเก่าที่ดีที่สุด และได้รับความนิยมสูงสุดแล้วนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้งไม่แน่ว่าคอนเทนต์ที่คุณนำกลับมาใช้ไม่ อาจจะจะไฉไลกว่าเดิมก็เป็นได้